โดยหลักการของ git เนี่ยมันมีคำแนะนำอยู่ข้อหนึ่งว่า โค้ดที่อยู่ใน master จะต้องเป็นโค้ดที่เชื่อถือได้ คือปราศจากบัก ถ้าโปรดักชั่นพังเมื่อไร จะต้องสามารถเอามาจาก master แล้วใช้ได้เลย ต้องไม่มีความกังวลว่าในนั้นมันจะบักหรือเปล่า
แต่คุณต้องเข้าใจนะว่ามันเป็น guideline ไม่ใช่กฎข้อบังคับ ฉะนั้นเราจะพัฒนาโปรแกรมเราโดย commit , push ลงไปโต้งๆใน master ก็ได้ แต่ไม่ใช่สิ่งควรทำ เพราะจะทำให้ master เชื่อถือไม่ได้อีกต่อไป
ถ้าเป็นโปรเจ็กเล็กทำอยู่คนเดียวก็ไม่เป็นไรหรอก ผมเองก็โซ้ยมันลงไปใน master นั่นแหละ แต่ถ้าพัฒนาโปรแกรมใหญ่ขึ้น และมีทีมงานตั้งแต่สองคนขึ้นไปในการทำงาน ควรจะทำสิ่งหนึ่งที่เขาเรียกว่าแตก branch
แตก branch คืออะไร
แตก branch ก็เหมือนกับการก้อปปี้โค้ดที่อยู่ภายใน master ทั้งหมดไปเป็นอีกโฟลเดอร์หนึ่งแล้วตั้งชื่อใหม่ ทุกคนที่ร่วมกันทำงานก็ให้ตกลงกันว่าจะ commit, push โค้ดลงไปที่นี่ ทดสอบโค้ดกันที่นี่ พอหลังจากพัฒนาโค้ดจนดี ไม่มีบัก อยากจะขึ้นโปรดักชั่นแล้ว ค่อย merge เขาเรียกว่าการ merge โค้ดกลับเข้าไปยัง master
ซึ่งตัว git มันจะเช็กของมันเองว่ามีโค้ดส่วนไหนเปลี่ยนแปลงไปบ้าง มันจะทำการผสานโค้ดของมันเอง เราไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับมันเลย แล้ว git เองมันก็ฉลาดถึงขนาดที่ว่า มันรู้ว่า ลบบรรทัดไหน เพิ่มบรรทัดไหน
แจ่ม
มาดูวิธีแตก branch
1. เปิด Source Tree ขึ้นมา ไปที่โปรเจ็ก คลิกปุ่ม Branch เมื่อหน้าต่างป้อนรายละเอียดเปิดขึ้นมา ก็ป้อนรายละเอียดลงไป เสร็จแล้วคลิกปุ่ม New Branch
New Branch : ตั้งชื่อ branch
Commit : Working copy parent
Checkout New Branch : ติ๊กเครื่องหมายถูก
ทีนี้มาสังเกตที่ Source Tree ของเรานะ จะเห็นว่าเครื่องหมายถูกมันติ๊กไว้ที่ branch ที่สร้างขึ้นมาใหม่ มันหมายความว่า ณ ขณะนี้ Working Copy ของเราอยู่ที่ branch นี้ การกระทำใดๆต่อโค้ดที่ Working copy จะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อ branch อื่นๆเลย
Leave a Reply