1. เซฟเวลาของโปรแกรมเมอร์
   เวลาที่โปรแกรมเมอร์เขียนโค้ดสักหน้า สิ่งหนึ่งที่ต้องทำแน่ๆคือทดลองวิธีการดูว่าที่คิดไว้มันจะเวิร์คหรือเปล่า ถ้าไม่เวิร์คก็ต้องรีสโตร์โค้ด ตรงรีสโตร์โค้ดนี่แหละ ถ้าบังเอิญลืมแบ็คอัพโค้ดไว้ก่อนการแก้ไข มันจะเสียเวลาเป็นอย่างมาก เพื่อจะให้โค้ดกลับไปสู่สถานะเดิม SVN ช่วยท่านได้ เพราะ SVN จะเก็บโค้ดที่ stable ไว้ให้
2. เซฟเงิน
   เมื่อโปรแกรมเมอร์ไม่ต้องเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระเล็กๆน้อย (ที่ก่อปัญหายิ่งใหญ่) การทำงานก็เร็วขึ้น นั่นหมายความว่าบริษัทได้รับผลจากโปรแกรมเมอร์มากขึ้น เมื่อเทียบบรรยัติไตรยางค์ของผลงานกับเวลา เท่ากับว่าบริษัทเซฟเงินได้จำนวนมหาศาล
3. แก้ไขไฟล์เดียวกันโดยโปรแกรมเมอร์มากกว่าหนึ่งคน ไม่ทำให้โค้ดพัง
   ถ้าเราไม่ใช้ SVN โปรแกรมเมอร์คนหนึ่งจะต้องรอให้โปรแกรมเมอร์อีกคนทำงานเสร็จก่อน จึงสามารถแก้ไขได้ ถ้าใช้ SVN ตัว SVN เซิฟเวอร์จะทำหน้าที่ประสานโค้ดจากโปรแกรมเมอร์ทั้งสองเข้าด้วยกัน ถ้าเกิดโค้ดมีการชนกัน ตัว SVN ก็จะแสดงให้เห็นว่าชนกันตรงไหน และจะใช้โค้ดจากโปรแกรมเมอร์คนไหน
4. เก็บหมายเหตุของโค้ดไว้ให้
   ถ้าเราแบ้กอัพด้วยการบันทึกชื่อไฟล์เป็นไฟล์ใหม่ พอมันเยอะๆเข้า เราเริ่มงงแล้วว่าเราแบ้กอัพไว้ทำไม แต่ SVN ทุกๆครั้งที่เราส่งไฟล์ขึ้นไปเก็บในตัว SVN เราสามารถคอมเม้นท์ไว้ดูได้ว่าเราทำอะไรลงไป อีกอย่าง เราสามารถเปรียบเทียบความต่างระหว่าง 2 แบ้กอัพได้ว่า โค้ดมันต่างกันที่บรรทัดไหน
5. ไม่ต้องโทษกันเอง
   เวลาเขียนโค้ดกันหลายๆคน แล้วมันเกิดทำงานผิดพลาดเพราะโค้ดบางบรรทัด โปรแกรมจะเริ่มโทษกันเองว่าคนนั้นคนนี้เป็นแก้ (ถึงจะไม่พูดก็มักจะโทษในใจ ทำให้บรรยากาศในการทำงานไม่ดีนัก) ถ้าเป็น SVN มันจะบันทึกไว้ทั้งหมดว่าโค้ดแต่ละบรรทัดใครเป็นคนเพิ่ม ใครเป็นคนลบ เวลาเท่าไร
6. ไม่เปลืองเนื้อที่การแบ็คอัพ
   ถ้าไม่ใช้ SVN ก่อนการแก้ไขโค้ด ถ้าไม่แน่ใจก็ต้องแบ้กอัพไฟล์ไว้ก่อน พอแบ็คอัพไว้เยอะๆก็จะเปลืองเนื้อที่บนฮาร์ดดิส ถ้าใช้ SVN โค้ดจะถูกบันทึกการแก้ไขไว้ตลอด ด้วยวิธีการของ SVN เองที่ไม่ทำให้เปลืองเนื้อที่เลย (ถ้าไม่เคยใช้จะคิดภาพไม่ค่อยออก)
7. ไม่มีเปลืองค่าใช้จ่าย
   เนื่องจากซอฟต์แวร์ทางด้าน SVN มักจะเป็น open source ซึ่งมันฟรี จะเสียก็แค่ค่าหาความรู้เรื่องการใช้งานซึ่งถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่จะได้มา

SVN ยังมีความสามารถปลีกย่อยอีกมากมาย ที่จะช่วยให้งานของโปรแกรมเมอร์ง่ายขึ้น และช่วยให้บริษัทประหยัดเวลาในการพัฒนาซอฟต์แวร์

วัชรเมธน์ ชิษณุคุปต์ ศรีเนธิโรทัย

Programmer, Blogger

ชีวิตมันคือการเดินทางเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง และเพื่อค้นพบอะไรบางอย่าง สิ่งที่รู้แล้วจะได้บอกกล่าวให้คนข้างหลังได้ฟัง เพื่อเดินลุยเข้าไปในพงหนามอย่างเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะต้องเจ็บ