TortoiseSVN เป็น SVN Client ที่ได้รับความนิยมมอย่างถล่มทลายสำหรับผู้ใช้ระบบปฎิบัติการวินโดว เนื่องด้วยเป็นของฟรีและใช้งานง่าย

การใช้งาน SVN นั้นส่วนใหญ่แล้วกระทำผ่านตัว SVN Client เกือบทั้งหมดและตัว SVN Client นั้นไม่สามารถใช้งานด้วยตัวมันเองเดี่ยวๆ มันจะต้องมีการติดตั้งตัว SVN Server ด้วย ซึ่งตัว SVN Server ที่นิยมติดตั้งบนระบบปฎิบัติการวินโดว ก็คือ VisualSVN เพราะฉะนั้นถ้าท่านยังไม่ได้อ่าน 4 บทความที่ผมเขียนมาก่อนหน้านี้ กรุณาอ่านก่อน เพราะมันเป็นบทความที่ต่อเนื่องกัน จุ่ๆมาอ่านบทความนี้เข้าจะงงเอา

1. ดูแลซอร์สโค้ด PHP ด้วย SVN
2. ความสงสัยเกี่ยวกับ SVN
3. ศัพท์ประหลาด SVN
4. ติดตั้ง visualSVN และการตั้งค่า

ติดตั้ง TortoiseSVN

1. ดาวน์โหลด TortoiseSVN มาก่อนที่นี่ tortoisesvn.net/downloads.html (หรือที่นี่ http://sourceforge.net/projects/tortoisesvn/)จะเลือก 32 บิตหรือ 64 บิต ก็ขึ้นอยู่กับวินโดวของท่าน

2. ดับเบิลคลิกตัว TortoiseSVN ที่ดาวน์โหลดมาเพื่อเริ่มกระบวนการติดตั้ง แล้วคลิก Next

3. ติ๊กถูกยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน (ผมบอกตามตรงว่าผมไม่เคยอ่านว่ามันมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ไม่ว่าจะติดตั้งโปรแกรมอะไร นิสัยเสีย) แล้วคลิก Next

4. ไม่ต้องปรับแต่งอะไร คลิก Next อย่างเดียว

5. คลิก Install อย่าได้แคร์สื่อ

6. คลิก Finish เสร็จสิ้นกระบวนการติดตั้ง ถ้าท่านขี้เกียจอ่าน Change log ก็ติ๊กเครื่องหมายถูกหน้า Show Changelog ออกเสียด้วย

7. คลิก Yes เพื่อ Restart เครื่อง

Import โปรเจ็กเข้า VisualSVN

ผมขอจินตนาการเอาว่า ก่อนหน้านี้ท่านได้ทำโปรเจ็กมามากมาย แต่ไม่ได้ใช้ SVN เข้าช่วยดูแลซอร์สโค้ด เมื่อคิดจะใช้ SVN ก็ต้องติดตั้ง VisualSVN และสร้าง Repository ไว้รอรับซอร์สโค้ดจากเครื่องโปรแกรมเมอร์ (หรือของตัวเองถ้าใช้อยู่คนเดียว) แรกสุดเลยเราต้อง Import โปรเจ็กของเราเข้าไปไว้ในตัว VisualSVN ก่อน จากนั้นจึง Checkout โค้ดออกมา เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการดูแลซอร์สโค้ดด้วย SVN

ถ้าเป็นโปรเจ็กใหม่กิ๊กๆ เราข้ามขั้นตอน Import ไปเลย เพียงแค่ทำการ Checkout ก็พอ ในบทความ ติดตั้ง visualSVN และการตั้งค่า ผมสร้าง Repository ตัวอย่างไว้ตัวนึงชื่อ select2webstore ผมจะนำโปรเจ็กตัวนี้เข้าสู่กระบวนการ SVN

1. คลิกขวาที่โปรเจ็ก เลือก TortoiseSVN > Import…

2. ป้อน URL ชี้ไปยัง Repository ที่สร้างไว้บน VisualSVN เสร็จแล้วคลิก OK

ทีนี้แล้วเราจะเอา URL มาจากไหน เราก็เอามาจาก Server URL is ที่ผมเคยบอกให้จำไว้ตอนติดตั้ง VisualSVN เอา URL ตรงนั้น+ด้วยชื่อ Repository

3. ป้อนล้อกอิน เสร็จแล้วคลิก OK รอสักครู่ไฟล์ทั้งหมดในโฟลเดอร์ก็จะถูก Import เข้าไปเก็บไว้ใน Repository ทั้งหมด (กรณีของผมๆไม่ได้ให้มันจำล้อกอิน เพื่อเขียนบทความ ส่วนท่านเวลาใช้งานจริงก็ติ๊ก save authentication ให้มันจำล้อกอินไว้ด้วย มันจะได้ไม่ถาม)

เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ Import ซอร์สโค้ด การ Import ซอร์สโค้ดนี้จะกระทำเพียงครั้งเดียวต่อ 1 โปรเจ็กที่มีข้อมูลอยู่แล้ว ย้ำโปรเจ็กที่มีข้อมูลอยู่แล้ว (ถ้าเป็นโปรเจ็กที่ทำขึ้นมาใหม่ก็ไม่จำเป็นจะต้องทำการ Import ข้ามเข้าสู่กระบวนการ Checkout เลย) หลังจากทำการ Import แล้ว ต่อไปก็ Checkout ซอร์สโค้ดกลับมาที่โฟลเดอร์โปรเจ็กของเรา เพื่อให้การทำงานเข้าสู่กระบวนการ SVN สมบูรณ์แบบ

Checkout

1. คลิกขวาที่โปรเจ็กเลือก SVN Checkout…

2. ป้อน URL ของ Repository ตรง Checkout Dept เลือก Fully recursive

3. ระบบจะฟ้องว่าโฟลเดอร์ของคุณไม่ว่างนะ แน่ใจนะว่าจะ Checkout ซอร์สโค้ดมายังโฟลเดอร์นี้ ตอบไปเลยครับว่า Yes

4. ป้อนแอคเค้า (อีกแล้ว)

5. รอสักครู่กระบวนการ Checkout ก็จะเสร็จสิ้น

6. กลับไปดูที่โฟลเดอร์ของโปรเจ็ก จะเห็นมีเครื่องหมายถูกเขียวๆขึ้นมา แสดงว่าโปรเจ็กของเราเข้าสู่กระบวนการ SVN สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ต่อจากนี้ไปเราก็พัฒนาโปรเจ็กของเราไปตามกระบวนการปกติ แก้โค้ด ทดสอบ ลบไฟล์ที่ไม่ต้องการทิ้ง สร้างไฟล์ใหม่ ปกติครับ ปกติ แต่หลังจากที่แก้ไขไฟล์จนเป็นที่พอใจแล้ว เราจะต้อง Commit ไฟล์ที่แก้ไขหรือเพิ่มเข้ามาใหม่ ขึ้นไปเก็บยัง SVN Server (VisualSVN)

ในบทต่อไปผมจะอธิบายวิธีการ Commit ไฟล์ ขอให้ติดตามกันต่อไปนะครับ

วัชรเมธน์ ชิษณุคุปต์ ศรีเนธิโรทัย

Programmer, Blogger

ชีวิตมันคือการเดินทางเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง และเพื่อค้นพบอะไรบางอย่าง สิ่งที่รู้แล้วจะได้บอกกล่าวให้คนข้างหลังได้ฟัง เพื่อเดินลุยเข้าไปในพงหนามอย่างเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะต้องเจ็บ